อุปกรณ์เสียงสตูดิโอสำหรับมืออาชีพ
Audio Interface คืออะไร และเกี่ยวข้อกับงาน Live/Podcast/Clubhouse ยังไง
Audio Interface คืออะไร และเกี่ยวข้องกับงาน Live/Podcast/Clubhouse ยังไง หากใครกำลังเริ่มสนใจงานด้านเสียง หรือกำลังสนใจที่จะพัฒนาคุณภาพเสียงเวลาทำงาน Live การพูดคุยผ่าน Podcast หรือแอปพลิเคชั่น Clubhouse และอาจจะได้รับคำแนะนำให้ลองใช้ Audio Interface และ Audio Interface คืออะไรและเกี่ยวข้องกับงาน Live/Podcast/Clubhouse ยังไง มาดูกันครับ
Audio Interface คืออะไร
Audio Interface อุปกรณ์ที่มีผลโดยตรงกับคุณภาพเสียงที่เราจะได้ในการทำงานแบบ Home studio เลยซึ่งหน้าที่ของ Audio interface คือจะช่วยแปลงเสียงจากสัญญาณ Analog เช่น เสียงพูด เสียงร้อง เสียงเครื่องดนตรีผ่านการบันทึกเสียงจากไมโครโฟนหรือสายสัญญาณเสียงจากเครื่องดนตรี ให้กลายเป็นสัญญาณดิจิตอลที่เข้าไปยังคอมพิวเตอร์ เพื่อทำการบันทึกสัญญาณและก็สามารถแปลงสัญญาณเสียงนั้นเป็นสัญญาณ Output เพื่อให้เราฟังผ่านลำโพงหรือหูฟังเพื่อมอนิเตอร์เสียงได้
บิต (bit) และ กิโลเฮิร์ตซ์ (kHz)
Audio Interface เป็นตัวช่วยเพิ่มคุณภาพเสียงดังนั้นเวลาไปเลือกซื้อ Audio Interfaceก็มักจะต้องเจอคำว่า บิต (bit) และกิโลเฮิร์ตซ์ (kHz) ที่ช่วยให้เรารู้ถึงคุณภาพเสียงที่เราจะได้หลังจากผ่านการแปลงสัญญาณจาก Audio Interface นั่นเองครับ ตัวอย่างเช่น Audio Interface รองรับการทำงานหรือให้คุณภาพเสียงหรือค่าความละเอียดในการบันทึกเสียงที่ 24-bit/192 kHz
โดย bit depth หรือค่าที่มีหน่วยเป็น บิตจะเป็นการอธิบายถึงความต่างกันระหว่างจุดที่ดังที่สุดและค่อยที่สุด (Dynamic range) ซึ่งถ้ามีความต่างกันของเสียงสองจุดนี้มากเท่าไหร่ เสียงก็จะมีความลึกมากขึ้น เราก็จะได้ยินเสียงที่คมชัด แยกแยะเสียงได้อย่างชัดเจน ความละเอียดของเสียงที่ได้ยินก็มากขึ้น โดยจะใช้ตัวเลขเช่น 4 บิต 8 บิต 16 บิต และ 24 บิต ซึ่ง ยิ่งตัวเลขสูงขึ้น (ตัวเลขจะเพิ่มขึ้นแบบเลขฐานสอง) ก็จะแสดงว่าเสียงที่ได้มีความคมชัดมากขึ้นนั่นเอง
กิโลเฮิร์ตซ์ (kHz) สัญลักษณ์ kHz 1 กิโลเฮิรตซ์ มีค่าเท่ากับ 1,000 เฮิร์ตซ์ เป็นความถี่ของเสียง ซึ่งเสียงที่เราได้ยินจากเสียงพูด เสียงเครื่องดนตรีจะมีคลื่นความถี่ที่แตกต่างกัน เช่น เสียงที่อยู่ในช่วงที่มนุษย์ได้ยินก็จะอยู่ตั้งแต่ 20-20,000 เฮิรตซ์ (20 kHz) หรือเครื่องดนตรีก็จะอยู่ในช่วงที่ให้ความถี่ที่แตกต่างกันออกไป เช่น A4 = 440 Hz ครับ
สรุปก็คือถ้าอยากได้เสียงที่ดีขึ้นตัวเลขก็จะเยอะนั่นเองครับ แต่เครื่องคอมพิวเตอร์ของเราก็อาจจะต้องทำงานหนักหน่อย เพราะต้องทำการประมวลผลข้อมูลคราวละมาก ๆ เครื่องต้องมีประสิทธิภาพพอสมควร รวมทั้งไฟล์ที่ได้ก็จะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นตามความละเอียดของไฟล์ที่ได้ครับ ซึ่งก็แปลว่าเราก็ต้องหาพื้นที่สำหรับเก็บไฟล์ของเราที่มีความจุมากขึ้น ต้นทุนด้านราคาก็จะเพิ่มขึ้นตามลำดับด้วยครับ
การใช้งาน Live/Podcast/Clubhouse
Audio Interface จะช่วยให้เราได้เสียงที่คมชัด คุณภาพและรายละเอียดเสียงดีขึ้นจากการใช้เพียงแค่ไมค์ต่อเข้าคอมพิวเตอร์ ซึ่งไมค์บางตัวเช่น USB ไมโครโฟนก็จะมี Audio Interface มีกระบวนการจัดการเสียงแล้วในตัว แต่บางแบรนด์ไม่มี หรือไม่ค์บางตัวที่อยากจะใช้ ก็ยังคงต่อเข้าโดยตรงกับคอมพิวเอตร์ไม่ได้ ก็ต้องอาศัยการใช้งานผ่าน Audio Interface นี่แหละครับ ซึ่งคุณภาพของเสียงเมื่อผ่านการปรับแต่งด้วย Audio Interface แล้ว ก็จะมีคุณภาพเสียงที่ดีขึ้น รายละเอียดเยอะขึ้น เสียงชัดขึ้น มีเสียงรบกวนน้อยลง คนที่ฟังเราผ่าน Live/Podcast/Clubhouse ก็จะได้ยินเสียงของเราชัดเจน น่าฟังมากขึ้นครับ